Nhaddhakit.History.Blogger@gmail.com
***** ***** *****
นายณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง
***** ***** *****
<<ประวัติทั่วไป>>
นายณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง(ภาษาอังกฤษ : Mr.Nhaddhakit Yosying
มิสเตอร์ ญาดาคิต โยไซอิ้ง) เป็นผู้ป่วยออทิสติก(Autistic : แต่
ส่วนมาก มักเขียนว่า Autistique ซึ่งเป็นไวยากรณ์ฝรั่งเศสมากกว่า)
เป็นชาวอำเภอวังจันทร์ จังหวัดระยองมาโดยกำเนิด มีความสามารถ
ทางด้านภาษา สามารถอ่านเขียนได้หลายภาษา
***** ***** *****
<<การศึกษา>>
แต่เดิม นายณัฐกิตติ์(ชื่อเล่น : สหายพล) ได้เข้าศึกษาชั้นอนุบาล
ที่โรงเรียนชุมชนบ้านวังจันทน์ ตำบลวังจันทร์ อำเภอวังจันทร์
จังหวัดระยอง จนกระทั่งจบมัธยมต้นที่โรงเรียนเดียวกัน
ในปี2553 และศึกษาต่อที่ กศน.อำเภอวังจันทร์ในปี2560
และ ศึกษาจบอย่างสมบูรณ์ในปีการศึกษา2561(มีนาคม 2562)
***** ***** *****
<<ความสามารถพิเศษ>>
สหายพล สามารถอ่านออกเขียนได้หลายภาษา โดยเรียงลำดับ
ตามปีที่เรียน ดังนี้ :-
-ปี2542 เรียนภาษาไทย(สมัยอนุบาล)
-ปี2543 เรียนภาษาอังกฤษ(วิชาภาคบังคับ)
-ปี2547 เรียนอักษรลายสือไทยของพ่อขุนรามคำแหง
-ปี2548 เรียนภาษาลาว -ปี2551 เรียนภาษาเขมร
-ปี2553 เรียนภาษาเวียตนาม(หลังเรียนจบมัธยมต้น)
-ปี2556 เรียนภาษาเกาหลีเหนือ ฝรั่งเศส ภาษาชนเผ่าม้ง
รัสเซีย และ ภาษาเมียนม่าร์ -ปี2557 เรียนภาษาญี่ปุ่น
-ปี2560 เรียนภาษาอินเดีย และ ไทลื้อ -ปี2562 เรียนภาษาธิเบต
ทั้งนี้ มีเพียงภาษาไทย ลาว และ เขมรเท่านั้น ที่สามารถ
สื่อสารโต้ตอบได้โดยไม่ต้องใช้เครื่องมือแปลใดๆทั้งสิ้น
***** ***** *****
<<ความรัก>>
เนื่องจากสหายพล เป็นผู้ป่วยออทิสติก(เด็กปัญญาอ่อน)
ทำให้ไม่สามารถมีความรักกับบุคคลทั่วไป จึงต้องนำ
ตัวการ์ตูนญี่ปุ่นมาเป็นแฟนแทน เพื่อเติมสิ่งที่ขาดหายไป
***** ***** *****
-โยชิดะ อายุมิ(โคนัน)
ระหว่างปี2542-2544
***** ***** *****
-โฮลี่(มอนสเตอร์ฟาร์ม)
ปี2544
***** ***** *****
-เซโนโอะ ไอโกะ(แม่มดน้อยจอมยุ่งโดเรมี)
ระหว่างปี2545-2548
***** ***** *****
-ยูกิชิโระ โฮโนกะ หรือ ชื่อเขมร เขียว บุญมี
(มหัศจรรย์สาวน้อยพริตตี้เคียว)
ระหว่างปี2549-2550
***** ***** *****
-มิโอะ อาคียามะ(K-ON!)
หรือ ชื่อเขมร บุญพา อัคคีญรรมะ
ระหว่างปี2555-ปัจจุบัน
***** ***** *****
<<ปาฏิหารย์ สหชาติ>>
ตั้งแต่เกิดมา จนอายุได้5กว่าปี สหายพลพูดเอ่ยเสียงอะไรไม่ได้เลย
ทางครอบครัวเกรงว่า จะเป็นใบ้ ถึงขนาดส่งไปคลินิคฝึกพูดที่โรง
พยาบาลชลบุรีมาแล้ว แต่ก็พูดไม่ได้อยู่ดี ทำได้อย่างเดียว คือ
ร้องไห้กระจองอแง จนกระทั่งเข้าเรียนชั้นอนุบาล ตอนนั้นเองที่
สหายพลไปให้ความสนใจกับเด็กหญิงคนหนึ่ง ชื่อ เพชรพิณ
(ขอสงวนนามสกุล) ที่หน้าอกผ้ากันเปื้อน มีการปักอักษร
ป.ปลา และ อ.อ่าง สหายพลจึงเอ่ยชื่อเธอว่า "ปอ!!!"
จึงถือว่า ชื่อเล่นของปอ เพชรพิณ เป็นประโยคแรกที่สหายพล
พูดได้ หลังจากนั้นหลายปี ทางโรงเรียนมีการจัดงานคืนสู่เหย้า
มีการนำข้อมูลนักเรียนที่เรียนจบไปแล้วย้ายที่อื่นมาติด สหาย
พลได้อ่านข้อมูลเล่น จนไปสะดุดกับวันเกิดของปอ เพชรพิณ
ทันใดนั้น เขาก็ตะลึง เมื่อได้ทราบว่า ปอ เพชรพิณมีวันเกิดตรงกับ
วันเกิดของเขา(สหายพล และ ปอ เพชรพิณ เกิดวันพุธที่22
ธันวาคม ปี2536 ปีระกา) ทำให้เขาคิดได้ว่า เป็นเพราะเขาได้เจอ
ปอ เพชรพิณตอนเด็กหรือเปล่า ทำให้เขารอดพ้น
จากการต้องเป็นใบ้ตลอดชีวิต ทำให้เขานับถือปอ เพชรพิณ
เป็นผู้นำทางจิตวิญญาณประจำตัวเสมอมา จวบจน
ปัจจุบันนี้
***** ***** *****
<<การเมืองในรั้วโรงเรียน>>
ในปี2547 สหายพลได้อ่านหนังสือข้อมูลประเทศในทวีป
เอเชีย แต่แล้ว สายตาเขาก็ไปสะดุดกับคำเรียกระบอบการ
ปกครองของสาธารณรัฐประชาชนจีนว่า 'คอมมิวนิสต์'
ด้วยความสนใจ เขาจึงศึกษาข้อมูล และ ประวัติของ
ลัทธิคอมมิวนิสต์อย่างลับๆ และ แน่วแน่
***** ***** *****
หลังจากศึกษาอยู่ระยะหนึ่ง เขาก็เห็นว่า ลัทธิคอมมิวนิสต์
เป็นลัทธิทางการเมืองที่ต่อต้านการเอารัดเอาเปรียบ
อย่างเข้มแข็ง เข้มงวด และ เด็ดขาด อาจเป็นหนทางสู่
การหลุดพ้นจากความทุกข์ เนื่องจากเขาถูกเพื่อนๆที่ยึดมั่น
ในระบอบประชาธิปไตยกลั่นแกล้ง รังแก รังเกียจเดียดฉันท์
ตลอด ดังนั้น ในวันแม่แห่งชาติ ปี2550 เขาจึงประกาศตน
เป็นผู้ที่ยึดมั่นในระบอบคอมมิวนิสต์อย่างเป็นทางการ
และ ก่อตั้งพรรคสภานักเรียน ภายใต้ชื่อ
'พรรคคอมมิวนิสต์รักสงบ ในนามลัทธิพิณจำปา'
ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็น 'พรรคไตรบรรพชน เฉิดโฉมปฏิรูป'
ในปี2552 เพื่อสรรเสริญอดีตหัวหน้าห้องสามคนก่อนหน้านั้น
คือ เด็กหญิงเฉิดโฉม เดชประสาท(ปัจจุบันหายสาปสูญ)
เด็กหญิงสุคนธ์ทิพย์ แม้ประเสริฐ(ปัจจุบัน ทำงานเป็นครู)
และ เด็กหญิงอิงอร หวานฤดี(ปัจจุบันหายสาปสูญ)
แต่สุดท้าย ก็ถูกยุบพรรคไป จนกระทั่งในปี2561 สหายพล
ได้ก่อตั้ง 'พรรควังจันทรานุสรณ์' เพื่อคานอำนาจของตนเอง
โดยให้นักเรียนที่ยังเรียนอยู่เป็นแคนดิเดต ปัจจุบัน
อยู่ในช่วงสร้างเนื้อสร้างตัว และ ประกาศรับสมัครสมาชิกเพิ่ม
***** ***** *****
<<สายด่วน กรมสุขภาพจิต>>
เนื่องจากสหายพล เป็นผู้ป่วยออทิสติก เขาจึงโทรไปที่ส่วยด่วน
กรมสุขภาพจิต 1323 เพื่อขอคำแนะนำ และ ขอคำปรึกษา
โดยทุกครั้งที่โทร เขาจะนำตัวละคร วัยแสบสาเหรกขาด โครง
การสอง ที่ชื่อ ใบพัด มาเปรียบเทียบกับอาการของเขาเสมอ
จนกระทั่งช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี2563 เกิดเหตุวินาศกรรม
ที่จังหวัดนครราชสีมา เขาเป็นกังวล เพราะนักวิชาการระบุว่า
คนร้ายก่อเหตุไปเพราะต่อต้านสังคม ถูกสังคมเอารัดเอา
เปรียบ ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงลงมือก่อเหตุไป
เขาจึงโทรไปที่กรมสุขภาพจิตอีกครั้ง และ เล่าเรื่องราวดัง
กล่าวให้เขาฟัง พร้อมกล่าวอีกว่า คนร้าย และ ตนเอง มีปมด้อย
แบบเดียวกัน จึงโทรไปเพื่อขอคำปรึกษา
หลังจากวางสายไป วันรุ่งขึ้น ทางกรมสุขภาพจิต ได้ติดต่อกลับมา
และ ให้คำปรึกษา และ ให้กำลังใจแก่เขาไป
แต่ทั้งนี้ ขอแนะนำว่า สายด่วน 1323 ถึงแม้จะโทรฟรี แต่เป็น
เบอร์สำหรับสร้างสุข สลายทุกข์ ห้ามโทรก่อกวนโดยเด็ดขาด!!!
***** ***** *****
<<วาทกรรม ธรรมะบีทบ๊อก>>
หลังจากสหายพลเรียนจบไปหลายปี หลายคนอาจจำข่าวดัง
ในปี2558 เกี่ยวกับความสามารถพิเศษของเด็กนักเรียน
โรงเรียนชุมชนบ้านวังจันทน์ได้ จนเป็นที่มาของวาทกรรม
"ธรรมะบีทบ๊อก" ได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ก็เป็นโรงเรียนที่เขาเคย
เจอปาฏิหารย์ สหชาติ ที่เล่าไว้ข้างต้นนั่นเอง
หลายกลายเป็นข่าว สหายพล ก็ได้เป็นหนึ่งในแฟนคลับ
คนสนิทของเด็กชาย พิรภพ หลาบคำ ซึ่งปัจจุบัน
เด็กชายพิรภพ หลาบคำ ยังคงเรียนอยู่โรงเรียนเดิม แถมยังเป็น
ประธานนักเรียน ในปีการศึกษา2562อีกด้วย
โดยสหายพล เป็นประธาน FC ของเด็กคนนั้น
***** ***** *****
<<ถูกกลั่นแกล้ง>>
สมัยสหายพล เรียนอยู่โรงเรียนชุมชนบ้านวังจันทน์ มักจะถูก
เพื่อนร่วมรุ่น รวมทั้งรุ่นพี่ และ รุ่นน้อง กลั่นแกล้งโดยตลอด
เนื่องจากตนเองเป็นผู้ป่วยออทิสติก(ปัญญาอ่อน) ทำให้ถูก
เอารัดเอาเปรียบได้ง่าย จนกระทั่งเรียนจบมัธยมต้น นึกว่า ปัญหา
จะจบไป แต่เปล่าเลย เพราะเมื่อได้สมัครเรียน กศน.อำเภอวังจันทร์
อย่างไม่เต็มใจเท่าใดนัก(เนื่องจากอาจารย์ จีรศักดิ์ สุขแก้ว
ครู กศน.ในขณะนั้น รับปากว่า หากเรียนจบ กศน.แล้ว จะให้
ทำงานเป็นครูสอนภาษา) ทำให้เขาเริ่มถูกนักศึกษาเจ้าถิ่นรับน้อง
โหดทางวาจา มองว่า เขาเป็นตัวตลก เพราะเขาพูดได้หลายภาษา
จึงมักถูกลองภูมิโดยตลอด แต่เขาก็ต้องอดทนฝืนกลั้น เพราะ
เขารับปากกับอาจารย์ จีรศักดิ์ สุขแก้วเอาไว้ จากเหตุการณ์นี้
ทำให้เขาเกลียดชังเพื่อนร่วมชาติอย่างถึงที่สุด เพราะในกลับกัน
เพื่อนชาวต่างชาติ ที่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว และ
กัมพูชา และ ประเทศคอมมิวนิสต์ เช่น เกาหลีเหนือ และ เวียตนาม
คอยเทคแคร์เขาโดยตลอด ไม่รู้สึกรังเกียจสหายพลที่เป็นออทิสติก
แต่ยกย่องเขาในฐานะแนวร่วมคอมมิวนิสต์ผู้ซื่อตรงเสมอมา
ทำให้สหายพลมองชาวต่างชาติเป็นมิตร มองคนไทยเป็นศัตรู
เพราะการเลือกปฏิบัติของคนไทยที่เขาไม่ควรจะได้รับ
***** ***** *****
<<บั้นปลายชีวิต>>
ปัจจุบัน สหายพล ณัฐกิตติ์ ยศยิ่ง ได้ย่างเข้าสู่วัยกลางคนแล้ว
แต่เขากลับมีสติปัญญาเหมือนเด็กมัธยมต้น สังเกตได้จากการ
ชอบดูการ์ตูนญี่ปุน แนวโลลิ ถึงขนาดเอาตัวการ์ตูนมาเป็นแฟน
และ เนื่องจากเขาชอบสูบบุหรี่เป็นชีวิตจิตใจ ทำให้เขาได้
พยากรณ์กับตนเองว่า ในเวลาไม่ช้านี้ เขาอาจเสียชีวิตด้วยโรค
มะเร็งปอด หรือ ถุงลมโป่งพอง ก็เป็นได้ แต่ปัจจุบัน สุขภาพ
เขายังคงแข็งแรงอยู่ ไม่มีโรคภัยเบียดเบียน
***** ***** *****
***** ***** *****
***** ***** *****
***** ***** *****
***** ***** *****
***** ***** *****
***** ***** *****
***** ***** *****
***** ***** *****










ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น